ช้างศึกฟุตบอลชายทีมชาติไทย ซีเกมส์ 2025 หวังทวงเหรียญทองเจ้าอาเซียนคืน!

ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ซีเกมส์ 2025

ทัพช้างศึกฟุตบอลชายทีมชาติไทย U23 เตรียมลงศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2025 โดยมีภารกิจสำคัญที่สุดคือ การทวงคืนเหรียญทองเจ้าอาเซียนซึ่งเป็นเหรียญที่แฟนบอลไทยรอคอย

 

เดิมพันใหญ่ “โค้ชวัง” นำทัพล่าแชมป์ในบ้าน

ความหวังของแฟนบอลชาวไทยถูกฝากไว้กับกุนซือระดับตำนานอย่าง “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2025 โดย “โค้ชวัง” ได้ประกาศถึงเป้าหมายเดียวในการแข่งขันครั้งนี้ คือ การคว้าเหรียญทองให้ได้สถานเดียว เพราะนี่คือการแข่งขันในบ้าน

“นี่คือซีเกมส์ในบ้านของเราเอง ถ้าเราได้เก็บตัวและเตรียมทีมด้วยความพร้อมอย่างเต็มที่ ก็มีโอกาสสูงมากที่เราจะทำได้ ทุกเกมมีความสำคัญหมด เพื่อเป้าหมายเดียวคือต้องคว้าเหรียญทองให้ได้ เพราะนี่คือเหรียญใหญ่ที่แฟนกีฬาไทยรอคอย” 

การทวงคืนเหรียญทองซีเกมส์มีความสำคัญมาก เพราะครั้งสุดท้ายที่ทีมชาติไทยชุดนี้ทำได้คือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย เมื่อปี 2017 ก่อนที่จะพลาดท่าได้เพียงเหรียญเงินในซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา หลังจากพ่ายให้กับอินโดนีเซียอย่างเจ็บปวดในรอบชิงชนะเลิศ (2-5) ทำให้ภารกิจในบ้านครั้งนี้จึงเป็นการ “ล้างแค้น” และ “เรียกศรัทธา” คืนจากแฟนบอลชาวไทย

 

โชคเข้าข้างช้างศึกกับผลจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม

เมื่อผลการจับสลากแบ่งกลุ่มถือว่าทีมชาติไทยโชคเข้าข้าง ได้รับการวางตัวให้อยู่ใน กลุ่ม A ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนทีมน้อยที่สุด

  • กัมพูชา
  • ติมอร์ เลสเต

การมีคู่แข่งเพียง 2 ทีมในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ไทยมีโปรแกรมเตะในรอบแรกที่เบาและสั้นกว่ากลุ่มอื่นๆ อย่างมาก และคาดว่าจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ไม่ยากแต่สุดท้ายก็ต้องเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ไปเจอคู่แข่งสุดหินอย่าง เวียดนาม หรือ อินโดนีเซีย โดยรอบแบ่งกลุ่มจะลงเล่นที่ สนามกีฬาติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา

 

ขุมกำลังความหวังดาวรุ่งพุ่งแรง U23

ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2025 จะเน้นใช้ผู้เล่นหลักในชุด U23 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันรายการใหญ่ในอนาคต ทำให้ดาวรุ่งหลายคนได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับชาติ โดยมีผู้เล่นที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ:

  • คคนะ คำยก (ซีโฟร์): กองกลางอนาคตใหม่จากเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่ใช้ “สมองและเซนส์ฟุตบอล” เป็นอาวุธสำคัญในการคอนโทรลเกม การลงเล่นในซีเกมส์ครั้งแรกจะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นพ่อมดแดนกลางคนใหม่ของชาติได้หรือไม่
  • ธีรศักดิ์ เผยพิมาย: กองหน้าสายเลือดใหม่จากสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ที่พร้อมจะทำประตูให้กับทีมชาติด้วยสัญชาตญาณกองหน้าและตัวจบสกอร์
  • บรรดาดาวรุ่งจากชุด U23: ไม่ว่าจะเป็น สิทธา บุญหล้า (การท่าเรือ), เสกสรรค์ ราตรี (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)  ซึ่งนักเตะเหล่านี้ผ่านการอุ่นเครื่องและเก็บตัวมาอย่างต่อเนื่องกับ “โค้ชวัง” ทำให้มีความเข้าใจในแท็กติกเป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีความชัดเจน 100% ว่าจะมีการใช้ผู้เล่นโควต้าอายุเกินมาเสริมทีมหรือไม่ แต่หากมีการอนุญาต การได้ผู้เล่นระดับ A-Class มาช่วยประคองทีมในตำแหน่งสำคัญ จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการคว้าเหรียญทองให้สูงขึ้นไปอีก

 

คู่แข่งที่น่ากลัวและน่าจับตามอง

แม้รอบแบ่งกลุ่มจะค่อนข้างง่าย แต่เส้นทางสู่เหรียญทองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน โดยเฉพาะในรอบน็อกเอาต์

  • เวียดนาม (แชมป์เก่า): ถือเป็นคู่ปรับสำคัญที่สุดในยุคนี้ พวกเขามักจะส่งชุดที่ดีที่สุดลงสนามและมีแท็กติกที่รัดกุม การเผชิญหน้ากับเวียดนามในรอบน็อกเอาต์จะเป็นเกมที่ต้องใช้ทั้งความสามารถเฉพาะตัวและวินัยในเกมรับอย่างสูงสุด
  • อินโดนีเซีย (แชมป์ล่าสุด): ทีมที่เพิ่งทำลายความฝันของไทยในนัดชิงฯ ซีเกมส์ 2023 พวกเขามีความเร็ว ความแข็งแกร่ง และแพสชันในการเล่นที่ดุดัน การเจอกับอินโดนีเซียคือการวัดกันที่ พละกำลังและความนิ่ง
  • มาเลเซีย: เป็นอีกหนึ่งทีมที่ไม่สามารถมองข้ามได้ พวกเขามักจะมีผู้เล่นชุดผสมผสานที่มีเทคนิคสูงและเล่นในจังหวะสวนกลับได้อย่างอันตราย

ซีเกมส์ 2025 ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแข่งขันกีฬา แต่คือ ศักดิ์ศรีของเจ้าภาพ และ ภารกิจกอบกู้ศรัทธาฟุตบอลไทย หลังจากการพลาดเหรียญทองมาหลายสมัย การเล่นในบ้านภายใต้การนำของ “โค้ชวัง” และแรงเชียร์จากแฟนบอลทั่วประเทศจะช่วยให้ทัพ “ช้างศึก” ก้าวข้ามความกดดันและคว้าเหรียญทองและเจ้าอาเซียนกลับมาที่ประเทศไทยให้ได้

 

Chat with us