วิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า 10 เคล็ดลับน่ารู้

วิธีการเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า 10 เคล็ดลับน่ารู้

เมื่อพูดถึงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและเผาผลาญไขมัน การเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า หรือเครื่องออกกำลังกายประเภทคาดิโอเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือเดิน ไม่ว่าจะเป็นการเดินราบพื้นธรรมดาหรือแบบปรับความชันเสมือนเดินขึ้นภูเขา ทั้งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงระบบการหายใจ ระบบหัวใจ และกล้ามเนื้อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า 10 เคล็ดลับน่ารู้ ที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

1. มอเตอร์ DC กับ AC ต่างกันอย่างไร

ลู่วิ่งไฟฟ้า มีมอเตอร์หลัก 2 แบบ ได้แก่

มอเตอร์แบบ DC:
เหมาะสำหรับการใช้งานเบา ๆ หรือวิ่งในช่วงเวลาสั้น ๆ

  • ข้อดี: ราคาไม่สูง
  • ข้อจำกัด: อายุการใช้งานสั้นกว่ามอเตอร์ AC

มอเตอร์แบบ AC:
เหมาะสำหรับการวิ่งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

  • ข้อดี: อายุการใช้งานยาวนานกว่า
  • ข้อจำกัด: ราคาสูงกว่า

2. สายพาน(พื้นที่สำหรับเดินและวิ่ง)

การเลือกขนาดของสายพานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การออกกำลังกายของคุณสบายและปลอดภัย

  • ความกว้าง : ยิ่งกว้างก็จะทำให้การเดินหรือวิ่งสบายขึ้น
  • ความยาว :ควรเลือกให้เหมาะสมกับความสูงและช่วงก้าวของผู้ใช้งาน

ข้อควรระวัง : ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าสายพานที่ระบุไว้ไม่รวมถึงพื้นที่ที่พักเท้าด้วย สายพานควรเลือกขนาดของสายพานที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้วิ่ง อย่าให้แคบหรือมีพื้นที่น้องจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ตอนออกกำลังกายไม่สนุกรู้สึกอึดอัดได้ค่า

3. ความเร็ว

ความเร็วเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา โดยทั่วไป ลู่วิ่งไฟฟ้า สำหรับใช้ที่บ้านจะมีการใช้ความเร็วที่เหมาะสมดังนี้ :

  • ความเร็ว 0-5 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ เดิน
  • ความเร็ว 6-9 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ วิ่งเบา ๆ หรือจ็อกกิ้ง
  • ความเร็ว 10-14 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ วิ่งเร็ว
  • ความเร็ว 15-22 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ วิ่งเร็วมาก(HIIT Cardio)

4. ความชัน

การปรับความชันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันและเสมือนการวิ่งขึ้นภูเขา แต่ละรุ่นจะมีการปรับระดับที่แตกต่างกันออกไป

5. ระบบลดแรงกระแทก

ระบบลดแรงกระแทกจะติดตั้งอยู่ในส่วนของใต้กระดานของลู่วิ่งไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทก ลดอัตราการเกิดการบาดเจ็บของข้อเท้าและหัวเข่า
ชนิดของระบบลดแรงกระแทกจะมีอยู่ 3 ชนิด เพิ่มการอธิบายการทำงาน หรือลักษณะของแต่ละระบบทั้งสามระบบด้วยค่า

  1. ระบบลดแรงกระแทกแบบโช้ค – ควบคุมการยุบตัว และการยืดตัวของสปริง ลดแรงกระแทกในขณะวิ่ง
  2. ระบบลดแรงกระแทกแบบ Air Cushion – ระบบลดแรงกระแทกในรูปแบบอากาศที่อัดอยู่ภายในยางใต้สายพาน ความรู้สึกเสมือนรองเท้ากีฬา ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของข้อเท้าและหัวเข่าได้เป็นอย่างดี
  3. ระบบลดแรงกระแทกแบบ Soft Cushion – ระบบลดแรงกระแทกในรูปแบบยาง มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการคืนตัวสูง

6. หน้าจอและโปรแกรม

หน้าจอของ ลู่วิ่งไฟฟ้า ควรแสดงข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นในการออกกำลังกาย ได้แก่:

  • ความเร็ว
  • ความชัน
  • แคลอรี่ที่เผาผลาญ
  • ระยะทางที่วิ่ง
  • การเต้นของหัวใจ
  • เวลาในการวิ่ง

7.การรองรับน้ำหนัก

ลู่วิ่งไฟฟ้า แต่ละรุ่นจะสามารถรับน้ำหนักของผู้วิ่งได้ต่างกัน จึงต้องคำนวณจากหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักของผู้วิ่ง น้ำหนักของเครื่องและขนาดของมอเตอร์

  1. มอเตอร์ 1-2.5 HP สำหรับผู้วิ่งที่มีน้ำหนัก 50-80 กิโลกรัม
  2. มอเตอร์ 3.0 HP ขึ้นไป สำหรับผู้วิ่งที่มีน้ำหนัก 80-100 กิโลกรัม
  3. มอเตอร์ 4.0 HP ขึ้นไป สำหรับผู้วิ่งที่มีน้ำหนัก 100-150 กิโลกรัม

ข้อควรระวัง : ควรจะเผื่อน้ำหนักเพื่อรองรับการกระแทกประมาณ 15-20 กิโลกรัม อายุการใช้งานของมอเตอร์ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้วิ่งด้วย หากเลือกมอเตอร์ไม่เหมาะสมกับน้ำหนักลู่วิ่ง แล้วมอเตอร์รับไม่ไหว จะทำให้ต้องเปลี่ยนมอเตอร์บ่อยได้ค่า

8. การพับเก็บ

สำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด ควรเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่มีระบบพับเก็บ โดยมี 2 รูปแบบ

  • ระบบสลักล๊อค ยกส่วนท้ายของลู่วิ่งขึ้น จากนั้นใช้สลักยึดตัวลู่วิ่ง ระบบนี้จะเหมาะกับลู่วิ่งที่มีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากต้องใช้แรงในการยก และบางรุ่นอาจจะไม่สามารถพับเก็บเป็นแนวตั้งได้
  • ระบบไฮดรอลิค จะเป็นระบบไฮดรอลิคที่ช่วยในการพยุงน้ำหนักของลู่วิ่งในการขึ้นและลง ช่วยลดการใช้แรงในการยกตัวลู่วิ่ง

9. การรับประกันสินค้าและการบริการหลังการขาย

ก่อนซื้อควรตรวจสอบรายละเอียดการรับประกันและบริการหลังการขาย เช่น:

  • ประกันมอเตอร์ไฟฟ้า: โดยทั่วไปมี 5 ปี
  • ประกันสินค้าทั้งหมด: โดยทั่วไปมี 1 ปี
  • การซ่อม บริการอะไหล่ และนโยบายการคืนสินค้า

ข้อควรระวัง : ควรสอบถามทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ

10. การบริการจัดส่ง

ตรวจสอบบริการจัดส่งและติดตั้ง :

  • มีบริการจัดส่งและติดตั้งสินค้าหรือไม่
  • ค่าบริการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายหรือเปล่า
  • ระยะเวลาการจัดส่งและติดตั้งเป็นเท่าไหร่
  • มีการแนะนำวิธีใช้งานหรือไม่

 

สรุป

การเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณควรพิจารณาจาก 10 ข้อที่ทางเรา ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ สายพาน ความเร็ว ความชัน ระบบลดแรงกระแทก หน้าจอ โปรแกรมการใช้งาน การรองรับน้ำหนัก การพับเก็บ การรับประกัน และบริการจัดส่ง เมื่อเลือกตามความต้องการที่แท้จริง คุณจะได้เครื่องออกกำลังกายที่คุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน

หากคุณกำลังมองหาเครื่องออกกำลังกายที่มีคุณภาพสำหรับใช้ในบ้านหรือฟิตเนส ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง สมิทแมชชีน มัลติยิม หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ การมีเครื่องออกกำลังกายที่ดีสามารถช่วยให้คุณฝึกกล้ามเนื้อได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากคุณสนใจหรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกาย คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำได้ นอร์ท ฟิตเนส (North Fitness) ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำอุปกรณ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณ คุณสามารถทดลองสินค้าได้ที่ โชว์รูม North Fitness ของเราก่อนตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย

You may also like

6 อันดับอุปกรณ์โฮมยิมยอดนิยมปี 2025

สร้างกล้ามเนื้อด้วยอาหารโปรตีนสูง 6 เมนูที่ไม่ควรพลาด!