นาฬิกาออกกำลังกายกำลังกลายเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดินหรือการออกกำลังกายที่เข้มข้นเช่นการวิ่งมาราธอนหรือการเล่นกีฬา นาฬิกาออกกำลังกายได้รับการพัฒนาจากหลายๆยี่ห้อ จนทำให้ในปี 2025 มีนาฬิกาออกกำลังกายออกมาวางจำหน่ายให้ได้เลือกซื้อกกัน ซึ่งนาฬิกาออกกำลังกายไม่เพียงแต่ติดตามกิจกรรมต่างๆ แต่ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับความเครียด และการวัดคุณภาพการนอนหลับ
ในบทความนี้ North Fitness จะพาคุณไปรู้จัก 10 นาฬิกาออกกำลังกายยี่ห้อไหนดีในปี 2025 ที่เหมาะสมกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ โดยมุ่งเน้นไปที่นาฬิกาออกกำลังกายที่มีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ อย่ารอช้าตามเรามาดูไปพร้อมๆ กันได้เลย
1. Garmin Forerunner 965
Garmin Forerunner 965 เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่ออกแบบมาสำหรับนักวิ่งและนักไตรกีฬามืออาชีพ มีฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายขั้นสูง เช่น การวัดค่า VO2 Max และการแนะนำการฝึกซ้อมที่แม่นยำ นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ AMOLED ที่สว่างและคมชัด ทำให้ง่ายต่อการดูข้อมูลขณะออกกำลังกายแม้ในสภาพแสงจ้า แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 23 วันในโหมดสมาร์ตวอทช์
ราคา : ประมาณ 21,000 – 24,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
2. Apple Watch Ultra 2
Apple Watch Ultra 2 เป็นนาฬิกาออกกำลังกายรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานในกิจกรรมที่เข้มข้น เช่น การปีนเขา การวิ่งเทรล และการดำน้ำ มาพร้อมระบบ GPS ที่แม่นยำและเซ็นเซอร์วัดความลึกของน้ำ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สุขภาพที่ครบครัน เช่น การติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม
ราคา : ประมาณ 32,000 – 36,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
3. Garmin Venu 3
Garmin Venu 3 เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายหลากหลายประเภท ด้วยฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายที่ครอบคลุม เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ และการปั่นจักรยาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับและวัดความเครียด ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถดูแลสุขภาพในภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น
ราคา : ประมาณ 16,000 – 18,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
4. Polar Vantage V2
Polar Vantage V2 เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการติดตามความฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย มีฟีเจอร์ Recovery Pro ที่ช่วยแนะนำการฝึกซ้อมที่เหมาะสมตามระดับความเหนื่อยล้าของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีการวัดประสิทธิภาพในการวิ่งและการว่ายน้ำ พร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ถึง 7 วัน
ราคา : ประมาณ 18,000 – 20,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
5. Suunto 9 Peak Pro
Suunto 9 Peak Pro เป็นนาฬิกาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ด้วยความสามารถในการกันน้ำและระบบ GPS ที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การวัดระดับความสูงที่ละเอียด ทำให้นาฬิกานี้เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นกีฬาภูเขา เช่น การปีนเขา การวิ่งเทรล และการปั่นจักรยานบนเส้นทางที่ยากลำบาก
ราคา : ประมาณ 20,000 – 23,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
6. Samsung Galaxy Watch 7
Samsung Galaxy Watch 7 มีฟีเจอร์ที่หลากหลายสำหรับการออกกำลังกายและสุขภาพ เช่น การวัดการเต้นของหัวใจ การติดตามการนอนหลับ และการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือระบบ GPS ที่สามารถค้นหาเส้นทางได้อย่างแม่นยำ รวมถึงมีดีไซน์ที่ทันสมัยและหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ราคา : ประมาณ 13,000 – 15,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
7. HUAWEI WATCH GT 5 Pro
HUAWEI WATCH GT 5 Pro เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่มีเซ็นเซอร์วัดสุขภาพอย่างครบครัน เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจวัดออกซิเจนในเลือด และการตรวจจับความเครียด ตัวนาฬิกาทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานอย่างเซรามิกและไทเทเนียม ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในกิจกรรมที่หนัก นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 2 สัปดาห์
ราคา : ประมาณ 12,000 – 14,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
8. Fitbit Sense 2
Fitbit Sense 2 โดดเด่นด้วยการวัดสุขภาพจิตและร่างกาย มีฟีเจอร์ตรวจจับความเครียดที่สามารถแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทำการผ่อนคลายเมื่อมีความเครียดสะสมมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีการติดตามการออกกำลังกายอย่างครบถ้วน เช่น การวิ่ง โยคะ และการออกกำลังกายแบบ HIIT แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณ 6 วัน
ราคา : ประมาณ 10,000 – 12,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
9. Amazfit GTR 4
Amazfit GTR 4 เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่มีฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายที่หลากหลาย รองรับกีฬาหลายประเภท เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ และการปั่นจักรยาน มีฟีเจอร์ที่สามารถตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลสุขภาพเชิงลึก นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ถึง 14 วัน
ราคา : ประมาณ 6,000 – 7,500 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
10. Coros Apex 2 Pro
Coros Apex 2 Pro เหมาะสำหรับนักกีฬาผู้รักการผจญภัยในธรรมชาติ ด้วยฟีเจอร์ GPS ที่แม่นยำและการวัดระดับความเร็วในการวิ่ง รวมถึงการติดตามการฟื้นฟูร่างกายจากการฝึกซ้อม นาฬิการุ่นนี้มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายในสถานที่หลากหลาย
ราคา : ประมาณ 15,000 – 17,000 บาท
สั่งซื้อนาฬิกา
คำแนะนำในการเลือกนาฬิกาออกกำลังกาย
การเลือกนาฬิกาออกกำลังกายควรคำนึงถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หากคุณเป็นนักกีฬาหรือเข้มงวดในการออกกำลังกาย การมีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่แม่นยำและการตรวจวัดการฟื้นฟูร่างกายถือเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่ผู้ที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทั่วไปอาจต้องการนาฬิกาที่มีฟังก์ชันการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจและการนับก้าวเดินเท่านั้น นอกจากนี้ ความทนทานของวัสดุและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ควรเป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อ
นาฬิกาออกกำลังกายในปี 2025 เต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์ North Fitness ขอแนะนำว่าคุณควรเลือกนาฬิกาออกกำลังกายที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้โดยอิงจากชีวิตประจำวันของคุณเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าและฟังก์ชั่นที่ครบครันในการใช้งาน